การพูดกับเด็กสมาธิสั้น
การสื่อสารกันเด็กสมาธิสั้น
ข้อจำกัด และผลกระทบต่อการสื่อสารในเด็กสมาธิสั้นเด็กที่เป็นโรคสมาสั้นจะมีลักษณะพูดแทรกคนอื่นไม่คิดก่อนพูดและทำฟังคำถามไม่จบก็รีบตอบและอาจขัดจังหวะที่กำลังพูดอีกทั้งเป็นเด็กที่หงุดหงิดโมโหง่ายเมื่อรู้สึกไม่พอใจก็จะตอบโต้รุนแรงก้าวร้าวจึงทำให้มีความยุ่งยากในการสร้างสัมพันธภาพและอยู่ร่วมกับผู้อื่น
การพูดกับเด็กสมาธิสั้น
การสื่อสารเป็นสิ่งที่ต้องอาศัยการเรียนรู้มีการฝึกฝนและอยู่บนพื้นฐานของเจคคติที่ดีต่อกันจึงจะทำให้การสื่อสารนั้นมีประสิทธิภาพโดยปกติการสื่อสารกับลูกสมาธิสั้นมักมีการตอบโต้รุนแรงบางครั้งอาจถึงขั้นก้าวร้าวทำให้พ่อแม่หรือผู้ปกครองต้องคอยตักเตือนหรือตำหนิอยู่เสมอ ๆ จึงเป็นผลทำให้เกิดความไม่พอใจด้วยกันทั้ง 2 ฝ่ายและมักพบว่าการพูดคุยกันในครอบครัวพ่อแม่หรือผู้ปกครองจะจบการพูดคุยด้วยการสอนและเด็กจะตอบสนองด้วยการไม่ฟังหรือหันหน้าไปทางอื่น
เมื่อเด็กสมาธิสั้นมีข้อจำกัด ในการฟังจนจบไม่ได้ดังนั้นการสื่อสารในเด็กสมาธิสั้นจึงควรเน้นน้ำเสียงและท่าทีการแสดงออกด้วยสายตาที่เป็นมิตรด้วยการ
- พูดสั้น
- ชัดเจน
- ใช้น้ำเสียงนุ่นนวลปกติ
- ไม่ใช้อารม
สิ่งที่พ่อแม่หรือผู้ปกครองควรกระทำในการพูดกับลูก
- ชี้บอกสิ่งที่ดีหรือไม่ดี
- บอกตรง ๆ และสั้นกระชับ
- มองสบตาด้วยสัมพันธภาพที่ดี
- พูดให้จบเป็นเรื่อง ๆ ที่ละเรื่อง
- ไม่ควรรีบสรุป
- พูดในภาวะปัจจุบัน
- ถามความคิดเห็น
- ถามด้วยคำพูดที่สุภาพ
- พูดตามความรู้สึกถ้าอยากพูด
- ฟังอย่างระมัดระวังและทบทวนดูว่าท่านได้ยินอะไรและไม่เห็นด้วยให้แสดงท่าที่ที่สงบ
ถ้าพ่อแม่หรือผู้ปกครองโกรธควรบอกความรู้สึกของตนเองด้วยคำพูดที่ไม่ทำให้ใครรู้สึกถูกตำหนิหรือเดือดร้อนเช่น“ แม่โกรธแล้วนะที่หนูทำเช่นนี้ “และแสดงท่าที่ให้รู้ว่าโกรธจริงๆ
เมื่อเด็กทำดีต้องชมเชย, ชื่นชมหรือขอบใจกรณีผู้ปกครองทำผิดก็สามารถกล่าวคำขอโทษเด็กได้
คำสั่งที่มีประสิทธิภาพ
ควรออกคำสั่งให้ชัดเจน เช่น เมื่อพ่อแม่หรือผู้ปกครองต้องการให้เด็กร่วมมือในการทำงาน *ต้องแน่ใจว่าเป็นคำสั่งไม่ใช่สั่งเชิงถาม เช่น
“ทำไมหนูไม่เก็บของเล่นเดี๋ยวนี้” หรือ“ ได้เวลาอาหารแล้วต้องล้างมือใช่ไหม” เพราะคำสั่งเชิงถามหรือคำพูดที่ดูไม่ใช่คำสั่งจะทำให้เด็กไม่สนใจตอบหรือไม่ปฏิบัติตาม ควรเปลี่ยนคำสั่งให้ชัดเจนเช่น “เก็บของเล่นเดี๋ยวนี้” หรือ “ได้เวลาอาหารแล้วไปล้างมือ”
เมื่อต้องการใช้คำสั่ง พ่อแม่หรือผู้ปกครองไม่ควรตะโกน ให้เดินเข้าไปใกล้ตัวเด็กแล้วสั่งด้วยท่าที่หนักแน่นและพูดเสียงเข้มเวลาสั่งต้องแน่ใจว่าเด็กสนใจท่านโดยเด็กต้องมองตาท่านและกำลังฟังอย่างตั้งใจพ่อแม่หรือผู้ปกครองควรปล่อยให้สิ่งที่เด็กกำลังสนใจอยู่จบก่อน เช่น เกม วีดีโอ แล้วจึงใช้คำสั่งติดแผ่นกระดาษไว้กันลืมงานที่ต้องการให้เด็กกระทำ
กำหนดเวลาเสร็จงานที่ชัดเจนให้เด็กทราบล่วงหน้า เช่น ให้เสร็จก่อนบ่ายสามโมง เป็นต้น
คำพูดที่ควรหลีกเลี่ยง
- การออกคำสั่งชี้แนะที่เป็นการบังคับ
- การเตือนหรือขู่
- การเทศนาสั่งสอน
- การหว่านล้อมโต้เถียง
- การแนะนำหรือเสนอแนะที่ไม่เปิดโอกาสให้อีกฝ่ายชี้แจง
- ประเมินวิจารณ์
- เยินยอเกินความเป็นจริง
- วินิจฉัยหรือตัดสินว่าอีกฝ่ายถูกหรือผิด
- เปลี่ยนเรื่องฝานเลย
- ยั่วแหย่กลบเกลื่อน
ติดตามเนื้อหาดีๆ น่าอ่านได้ที่ your-free-tarot.com อัพเดตทุกสัปดาห์